ศูนย์ข้อมูล (โบราณสถาน เวียงท่ากาน)
- 372 ซอย 3 บ้านท่ากาน ถนน- ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตองเชียงใหม่ รหัสไปรษณีย์ 50120
- 053-219-091 , 053-221-047 , 053-481-176
-
- เปิดทุกวัน 09:00-17:00
- https://www.chiangmaipao.go.th/tourism/place_detai...
- #เมืองโบราณ #วัดโบราณ #เมืองเก่า #เวียงท่ากาน
-
ตำแหน่งจีพีเอส : 18.5500933, 98.8807949 (เปิดแผนที่บน Google Map) | ปิดพิกัดปัจจุบัน
ประวัติและความเป็นมาของเวียงท่ากาน
แหล่งโบราณคดีเวียงท่ากาน ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วพบว่า ชาวบ้านในเวียงท่ากานให้ความสนใจต่อการ “มีอยู่” ของโบราณสถาน ถึงขั้นนำเสนอให้กรมศิลปากรเข้ามาดูแล
- ทิศเหนือ ติดกับบ้านพระเจ้าทองทิพย์
- ทิศใต้ ติดกับบ้านสันกะวาน
- ทิศตะวันออก ติดกับบ้านหนองข่อย
- ทิศตะวันตก ติดกับบ้าต้นกอก และบ้านต้นแหนหลวง
การเดินทางจากตัวจังหวัดเชียงใหม่ ใช้เส้นทางสายเชียงใหม่-ฮอด เป็นระยะทางประมาณ 34 ก.ม. จนถึงทางแยกเข้าบ้านท่ากานบริเวณปากท่างบ้านทุ้งเสี้ยว เป็นระยะทางเข้าไปประมาณ 2 ก.ม. โดยผ่านพื้นที่บ้านต้นกอกสภา เมืองเก่าเวียงท่ากานมีลักษณะเป็นเมืองรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาว และมีกำแพงดินหรือคันดินล้อมรอบ 2 ชั้นปัจจุบันเหลือแนวคูน้ำ คันดินให้เห็น 3 ด้านยกเว้นด้านทิศใต้ ตัวเมืองโบราณมีสภาพเป็นเนินสูงพื้นโดยราบเป็นที่ราบลุ่มห่างจากลำน้ำปิงประมาณ 3 ก.ม. ทางทิศตะวันออกมีลำน้ำแม่ขานไหลผ่านห่างจากตัวเมือง เวียงท่ากานประมาณ 2 ก.ม. นอกจากนี้ยังมีลำเหมือง(ลำห้วย) สายเล็กๆ ชักน้ำจากน้ำแม่ขานมายังคูเมืองทางทิศใต้และยังมีลำเหมืองขนาดเล็ก ชักน้ำเข้ามาใช้ภายในเมืองทางทิศตะวันออก ซึ่งสันนิษฐานว่าคงเป็นระบบ ชลประทาน ที่สืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยโบราณ
สภาพภายใต้ในตัวเมืองเดิมเป็นป่าทึบต่อมามีการโค่นต้นไม้ใหญ่หักล้าง พื้นถ่างโพรงเพื่อทำเป็นที่อยู่อาศัยพื้นที่บริเวณชายเนินที่เป็นที่นาทั้งหมด ปัจจุบับบ้านเรือยราษฎรส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในตัวเมืองชาวบ้านท่ากานส่วนใหญ ่เป็นพวกชาวยองที่อพยพเข้ามาอยู่ตั้งแต่สมัยพระเจ้ากาวีละปกครองเมือง เชียงใหม่คนส่วนใหญ่พูดภาษายอง
คำว่า “ท่ากาน” ชาวบ้านเล่าว่ามาจากคำว่า “ต๊ะก๋า” ในตำนานเล่าว่า เมื่อก่อน นี้มีกาเผือกตัวใหญ่จะบินลงที่นี้ชาวบ้านกลัวว่าเมืองบินลงจะทำ ให้เกิดความเดือดร้อนในหมู่บ้านจึงพากันไล่กาหรือต๊ะก๋าไม่ให้มาลงก็เลย เรียกต่อกันมาว่าบ้านต๊ะก๋า ต่อมาเมือประมาณพ.ศ.2450 จ้าอาวาสวัด ท่ากานได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบ้านท่ากาน เนื่องจากคำว่าบ้านต๊ะก๋าไม่เป็น ภาษาเขียน
จากหลักฐานทางด้านเอกสารและตำนานหลายฉบับ เช่นตำนานมูลศาสนา พงศาวดารโยนกและตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวโดยร่วมได้ว่า เมืองท่ากาน เป็นเมืองที่มีประวัติเกี่ยวกับนิยายปรัมปราทางพุทธศาสนากล่าวถึงพระพุทธ เจ้า ว่าเคยเสด็จมาที่เมืองนี้ เมื่อมาถึงยุคล้านนา
และจากการขุดค้นขุดแต่งทางโบราณคดี ได้พบโบราณวัตถุศิลปกรรมแบบหริภุญไชยจำนวนมาก เช่น พระพิมพ์ดินเผาแบบต่าง ๆ พระพุทธรูปดินเผา เป็นหลักฐานที่ยืนยันว่า ชุมชนแห่งนี้นับถือพุทธศาสนามาตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 17 – 18 ส่วนโบราณสถานที่พบ ส่วนใหญ่เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนาที่กำหนดอายุสมัยระหว่างพุทธศตวรรษที่ 20-22 แสดงถึงการอยู่อาศัยสืบเนื่องกันมาโดยตลอด แม้ในสมัยที่อยู่ภายใต้การปกครองของพม่า ภายหลังที่เชียงใหม่พ่ายแพ้แก่พระเจ้าบุเรงนอง ในปี พ.ศ. 2101
เวียงท่ากาน ปรากฏชื่อใน ตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่ว่า “เวียงพันนาทะการ” คงจะเป็นเมืองที่มีความสำคัญเมืองหนึ่ง เนื่องจากพญามังราย (พ.ศ. 1804-1854)โปรดให้นำต้นโพธิ์ที่นำมาจากลังกาทวีปหนึ่งต้นในจำนวนสี่ต้น มาปลูกที่เมืองเวียงพันนาทะการ เวียงท่ากานเป็นเมืองที่มีเจ้าเมืองปกครองภายใต้การปกครองของเจ้าเมืองเชียงใหม่เป็นแหล่งสะสมเสบียงอาหารเพราะเป็น ถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ชื่อของเวียงท่ากานปรากฏในเอกสารโบราณเกี่ยวกับเมืองเชียงใหม่ในสมัยพระเจ้าติโลกนาถกล่าวว่าพระองคได้เสด็จยกทัพ ไปตีเมืองเงี้ยวและได้นำเฉลยเงี้ยวไปอยู่ที่เวียงท่าการเมืองเงี้ยวไปอยู่ที่เวียงพันนาทะการคงจะหมายความว่าในช่วงนี้เวียงพันนาทะการมีฐานเป็นเมืองขึ้นของเชียงใหม่ เพราะคำว่าพันนาในภาษาไทยเหนือหมายถึงตำบล
หลังจากพม่าเข้าตีเมืองเชียงใหม่ได้ในสมัยพระเจ้าหงสาวดี บุเรงนอง เวียงท่ากานที่ตกอยู่ในอำนาจของพม่าเช่นกันต่อมาทาง เชียงใหม่ร้างไปประมาณ 20 ปีเศษ คือในช่วงระหว่าง (พ.ศ.2318-2339) เวียงท่ากานก็คงจะร้างไปด้วย จนถึงช่วงปี พ.ศ.2339 พระเจ้ากาวิละทรงตี เมืองเชียงใหม่คืนจากพม่าได้จึงกวาดต้อนพวกไทยยองเข้ามาอยู่จนตราบ เท่าทุกวันนี้ ประชากรบ้านท่ากาน ส่วนใหญ่เชื้อสายไทลื้อ ที่เรียกตัวเองว่า “ชาวยอง” เนื่องจากอพยพมาจากเมืองยองในพม่า เข้ามาอาศัยในบริเวณเวียงท่ากาน เป็นระยะเวลากว่า 200 ปี เป็นชุมชนที่รักท้องถิ่น รักษาวัฒนธรรมประเพณีอย่างเคร่งครัด เข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของแหล่งที่อยู่อาศัยและของดีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมซึ่งมีอยู่ในพื้นที่ จึงรวมกลุ่มกันอย่างเข้มแข็งในการดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ในการอนุรักษ์และพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมในท้องถิ่นให้เป็นไปในแนวทางที่เหมาะสม จนได้รับโล่พระราชทานจากพระหัตถ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในฐานะผู้สนับสนุนการอนุรักษ์ดีเด่น ประจำปี พ.ศ. 2531 เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย
ชาวบ้านในเวียงท่ากานให้ความสนใจต่อการ “มีอยู่” ของโบราณสถาน ถึงขั้นนำเสนอให้กรมศิลปากรเข้ามาดูแล และยังไม่เพียงเท่านั้น พวกเรานักท่องเที่ยวทุกคนก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการ “อนุรักษ์” ได้เช่นกัน และแน่นอนว่า พวกเขายินดียิ่งที่จะมี “คนอื่น” มาช่วยกันดูแล ไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่หรือนักวิชาการทางโบราณคดีเท่านั้น
โบราณสถานภายในเวียงท่ากานที่สำคัญ
- วัดกลางเมือง
- วัดอุโบสถ
- วัดต้นโพธิ์
- วัดหัวข่วง
- วัดพระเจ้าก่ำ
- วัดต้นกอก
- วัดหนองหล่ม
- วัดน้อย
- วัดป่าเป้า
- วัดป่าไผ่รวก
- วัดกู่ไม้แดง
ส่วนโบราณวัตถุที่ค้นพบที่ เวียงท่ากาน แห่งนี้ มีมากมายพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ มีพระดำริที่จะจัดสร้างพิพิธภัณฑ์เวียงท่ากาน ขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมโบราณวัตถุอันมีค่าเหล่านี้ และเปิดให้ประชาชนเข้าชม
การเดินทาง
เวียงท่ากาน ตั้งอยู่ที่บ้านท่ากาน ตำบลบ้านกลาง อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ จากเชียงใหม่ ให้ใช้ทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ไปประมาณ 25 กิโลเมตร ผ่านอำเภอหางดง อำเภอสันป่าตอง ถึงแยกทุ่งเสี้ยวให้เลี้ยวซ้าย ขับตรงเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวเวียงท่ากาน
สำหรับแหล่งโบราณคดีแห่งนี้ เปิดให้เข้าชมทุกวัน จะขับรถชมวัดร้างต่างๆ เองก็ได้ แต่จะไม่ได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนมากพอ แนะนำให้ติดต่อมัคคุเทศก์ท้องถิ่น และรถรางนำชม ค่าบริการ 500 บาทต่อเที่ยว ส่วนนี้รวมค่าบริการมัคคุเทศก์ ค่าบริการรถราง ส่วนที่เหลือจะเก็บไว้เป็นค่าซ่อมบำรุงพาหนะ สนใจสอบถามรายละเอียดที่ประชาสัมพันธ์จังหวัด โทร. 0 5321 9091-2, 0 5322 1047
ที่มา Wiang Thakan: ประวัติและความเป็นมาของเวียงท่ากาน (wiangtakan.blogspot.com)