เตาเผาเครื่องถ้วยสันกำแพง

เครื่องถ้วยสันกำแพงผลิตจากเตาเผาโบราณ เชื่อว่าได้รับอิทธิพลมาจากจีนเช่นเดียวกับเครื่องถ้วยสุโขทัยและสวรรคโลก พบที่ตำบลออนใต้ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ตามที่อาจารย์ไกรศรี นิมมานเหมินท์ ได้ศึกษาเพื่อคำนวณอายุของเตาสันกำแพง ปรากฏว่าอายุตรงกับราชวงศ์ต้าหมิงของจีน รวมทั้งลักษณะลวดลายก็มีความคล้ายคลึงกัน

ทั้งนี้ เป็นหลักฐานอ้างอิงได้ว่า เครื่องถ้วยสันกำแพงเริ่มทำในสมัยพระเจ้าติโลกราช จนถึงสิ้นราชวงศ์เม็งราย คือประมาณ พ.ศ.1984 ถึง พ.ศ.2101 ซึ่งนับเป็นสมัยทองของลานนา

แต่ศิลปะเครื่องถ้วยสันกำแพงอยู่ได้ไม่นาน เพราะใน พ.ศ.2101 บุเรงนองเข้ามาตีเมืองเชียงใหม่ แล้วอพยพเอาบรรดาศิลปินและช่างฝีมือดีไปไว้ที่เมืองหงสาวดีเชื่อว่าช่างทำเครื่องถ้วยสันกำแพงคงถูกวาดต้อนไปอยู่ที่นั่น ทำให้การทำเครื่องถ้วยที่สันกำแพงยุติลงและถูกทอดทิ้งให้ร้างไป

อย่างไรก็ตาม ลักษณะเตาเผาสันกำแพงเป็นเตากูบก่อด้วยดินแล้วเผาให้แข็งตัว ลักษณะรูปร่างและการแบ่งสัดส่วนของเตาคล้ายกับเตาสมัยสุโขทัย คือ แบ่งออกเป็น 3 ส่วน ตอนหน้าเป็นที่ใส่เชื้อเพลิง ตอนกลางเป็นที่ตั้งผลิตภัณฑ์เข้าเผา และตอนท้ายเป็นปล่องไฟ ระบายความร้อน

เครื่องถ้วยสันกำแพงผลิตจากดินเหนียวรอบๆ บริเวณเตาเผา และดินขาวจากท้องลำห้วยแม่ลาน มีน้ำเคลือบสีเขียว ได้จากขี้เถ้าของลำต้นและใบมะก่อตาหมูไปผสมกับดินท้องนา อัตราส่วน 4 ต่อ 9 ปนน้ำพอไม่ให้ข้นจนเกินไป

น้ำเคลือบสีเขียวนี้เรียกว่าศิลาดล (celadon) ส่วนน้ำยาที่ใช้เขียนลวดลายบนถ้วยเป็นเส้นสีดำหรือสีน้ำตาลแก่ ทำจากดินแดงธรรมชาติซึ่งมีแร่เหล็กเจือปน

ที่มา รู้จักตำนาน-ที่มา ของ "เครื่องถ้วยสันกำแพง" - มติชนสุดสัปดาห์

เทรนด์
กันยายน 2024

กิจกรรมในเชียงใหม่