วัดศรีบุญเรือง

ประวัติความเป็นมา วัดศรีบุญเรือง (Sri Bun Rueng Temple)



สร้างขึ้น ในสมัยพ่อขุนเม็งรายมหาราช ครั้งนั้น เมืองเล็กเมืองน้อยต่าง ๆ ในแคว้นลานนาเกิดแตกความสามัคคี ต่างตั้งตนเป็นอิสระไม่ขึ้นแก่กัน ทั้ง ๆ ที่เจ้าเมืองส่วนใหญ่ก็เป็นพระญาติของพระองค์ คือสืบเชื้อสายมาจาก ลั๊วจักราชด้วยกัน พ่อขุนเม็งรายจึงมีพระดำริที่จะรวบรวมเมืองใหญ่น้อยทั้งหลายเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกัน เมื่อรวบรวมหัวเมืองฝ่ายเหนือได้แล้ว ก็คิดจะยกทัพไปปราบหัวเมืองฝ่ายใต้ต่อไป ในปี พ.ศ. 1805 ขณะยกทัพไปถึงเมืองลาวกู่เต้าและประทับบอยู่ที่นั่น เผอิญช้างทรงของพระองค์ซึ่งทอดไว้ที่ป่าหัวดอยทางทิศตะวันออก หลุดพลัดไป พระองค์จึงเสด็จตามรอยช้างไปจนถึงดอยจอมทอง ริมฝั่งแม่น้ำกก ทอดพระเนตรเห็นภูมิประเทศเป็นชัยภูมิที่ดี จึงได้โปรดให้สร้างพระนครขึ้น โดยก่อกำแพงโอบรอบ เอาดอยจอมทองไว้ภายในขนานนามว่า เมืองเชียงราย แล้วให้ย้ายราชธานีจากเมืองหิรัญนครเงินยาง มาตั้งอยู่ที่เชียงรายนับแต่นั้นมา ในปี พ.ศ. 1819 พ่อขุนเมงรายได้ยกกองทัพไปประชิดเมืองพะเยา พ่อขุนงำเมือง ผู้ครองเมืองพะเยาออกมารับเสด็จด้วยไมตรีและยกตำบลบ้านปากน้ำให้แก่พ่อขุนเมงรายแล้วปฏิญาณเป็นมิตรกัน ต่อมาอีกราว 4 ปี พ่อขุนรามคำแหงมหาราช แห่งอาณาจักรสุโขทัย พ่อขุนงำเมือง และพ่อขุนเมงราย ได้กระทำสัตย์ปฏิญาณเป็นพระสหายกัน โดยทรงเอาโลหิตที่นิ้วพระหัตถ์ผสมกับน้ำสัตย์เสวยทั้งสามพระองค์สัญญาว่าจะไม่เบียดเบียนกันตลอดชีวิต
และในปี พ.ศ. 1834 พ่อขุนเม็งรายเสด็จไปสร้างเมืองใหม่ที่เชิงดอยสุเทพ ใช้เวลาสร้างนาน 5 ปี พ.ศ. 1839 จึงเสด็จและสถาปนานครแห่งนี้ว่า เชียงใหม่ วัดศรีบุญเรือง ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกฝั่งแม่น้ำปิง สมัยสร้างเวียงกุมกาม เมื่อ พ.ศ. 1828 โดยเป็นอนุสรณ์สถานที่ได้สร้างสะพานข้ามแม่น้ำปิงเป็นแห่งแรก ต่อมาในปี พ.ศ. 1850 ได้สร้าง พระอุโบสถ ถวายแด่พระนางเจ้าเทพคำ ขยาย พระมารดาของพ่อขุนเม็งรายมหาราชที่สิ้นพระชนม์ ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดโรงวัว หรือวัดบ้านโรงวัว

กิจกรรมในเชียงใหม่